หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประกาศจบการศึกษา (แกรด) หรือ ลาออกจากวง ของ อุ้ม – ณัชชา กฤษฎาสิมะ และ แนทเธอรีน – ดุสิตา กิติสาระกุลชัย 2 สมาชิกวง BNK48 ในเธียเตอร์ BNK48 the Campus สร้างความตกใจต่อแฟนคลับ และถูกพูดถึงในหลาย ๆ ด้าน โดยกิจกรรมสุดท้ายที่จะเข้าร่วมคือ BNK48 77 ดินแดนแสนวิเศษ Handshake ในวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ส่วนสเตจจบการศึกษา กรุณาติดตามประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จากต้นสังกัด (ล่าสุด นิ้ง BNK48 ได้ประกาศจบการศึกษา เป็นคนที่ 12 ของวง ผ่านทางไลฟ์ iAM appliacaion ท่ามกลางความสงสัยของแฟนๆ)
อุ้ม – แนทเธอรีนประกาศจบการศึกษาจาก BNK48
หลังจากที่ประกาศจบการศึกษา ทั้ง แนทเธอรีน และ อุ้ม BNK48 ก็ได้ออกมาโพสต์ความรู้สึกถึงแฟน ๆ อย่าง น้องอุ้มเองก็เป็นคนหนึ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะออกจากวงเร็วขนาดนี้ ส่วนแนทเธอรีน ก็มีหลายคนพูดถึงมากมาย ล่าสุด คุณพ่อของน้องแนทเธอรีน BNK48 ได้ออกมาโพสต์ความเห็น ขอเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากลูกสาวประกาศลาออก เพราะเป็นประเด็นที่ถูกนำไปตั้งกระทู้ถาม และโพสต์ถึง ทำให้หลายฝ่ายเสียหาย แนทเธอรีน ก็ได้แชร์โพสต์คุณพ่อและบอกว่า “หนูเองก็รักน้องไม่แพ้พวกคุณอยู่แล้วค่ะ เรื่องที่ไม่เซฟความรู้สึกน้อง อันนั้นก็คือ บางคนคิดเอาเองทั้งนั้นเลย เมื่อวานนี้หนูได้ตอบReplyคอมเม้นที่ต่อว่าหนูไปบ้างบางอัน แต่เมื่ออธิบายแล้วคุณไม่ฟัง หนูก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอธิบายต่อค่ะ”
วันนี้อยากมาเขียนเกี่ยวกับปฎิกิริยาของผู้คนเวลามีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ในกรณีนี้ อยากจะขอพูดถึงเหตุการณ์การลาออกของลูกสาว ซึ่งปฎิกริยาของผู้คนเกิดจากการตั้งคำถามเหล่านี้ครับ
ทำไมต้องลาออก
ที่จริงการเข้าร่วมและการลาออกไป มันเป็นสิทธิเฉพาะตัว เหตุผลในเรื่องนี้คือ เวลาที่จะสมัครเข้ามา ไม่ต้องขออนุญาตใคร การจะรับหรือไม่ อยู่ที่นายจ้างหรือเจ้าของวง ซึ่งเขาก็ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นใครนอกจากปรึกษากันภายใน และไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลว่าทำไมจึงรับคนนี้เข้ามา บุคคลภายนอกไม่มีสิทธิที่จะไปซักเขา เพื่อให้ได้คำตอบว่า ทำไมรับคนนี้และทำไมไม่รับคนนั้น
และเมื่อใดที่ต้องการออก ลูกจ้างก็แค่แจ้งความต้องการไปยังนายจ้างตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำข้อตกลงกันไว้ในสัญญา ซึ่งบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่มีสิทธิไปซักถามในลักษณะคาดคั้นอีกเช่นกันว่า ทำไม เพราะอาจมีข้อตกลงในสัญญาเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ
ทั้งสองฝ่ายน่าจะต้องเปิดเผยเท่าที่ตนเองสามารถเปิดเผยได้อยู่แล้ว ดังนั้นอะไรที่บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่คู่สัญญา เข้าไปซักถามในลักษณะที่พยายามกดดันเพื่อให้ได้คำตอบที่ตนเองต้องการก็ไม่ควรทำ และที่เห็นมากมายตามโซเชียลคือ “คิดเอาเอง” และการคิดเอาเองนี้ ทั้งหมดไม่ได้มีข้อมูลที่ถูกต้องเลย เนื่องจากเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญญาจ้างนี้เลย ดังนั้นการคิดเอาเองนี้ไม่มีทางที่จะมีเนื้อหาสาระที่ถูกต้องนอกจากจะทำให้คู่สัญญาได้รับความเสียหายจากการถูกสังคมเข้าใจผิด
สรุปในเรื่องของเหตุผลในการลาออกของลูกสาว หลังจากอ่านการคิดเอาเองตามโซเซียลมาสองวันเต็ม ๆ ขอสรุปว่า ไม่มีความคิดเอาเองของใคร คิดหรือเดาถูกแม้แต่คนเดียว
สนับสนุนโดย https://movie2ufree.com หนังใหม่ชนโรง หนังฮอลลีวูด ดูซีรี่ออนไลน์ เว็บดูหนังออนไลน์